ทริบนี้เป็นทริปของขวัญจากคุณสามีเนื่องในโอกาศครบรอบ 4 ปีแต่งงานกันค่ะ เขาเลยจะพาไปฮันนีมูนกันอีกรอบ หวานเคยขอไว้ว่าอยากไปมัลดีฟส์สักครั้งหนึ่งในชีวิต เขาเลยเซอร์ไพร์จองตั๋วเครื่องบินแบบไม่บอกไม่ถาม 9 วัน 9 คืนที่มัลดีฟส์ แล้วค่อยมาหารีสอร์ทกันทีหลัง ตอนแรกจองตํ๋วเครื่องบินกับรีสอร์ทไว้กลางเดือนมิถุนายน แต่มีเหตุดีมากๆ ที่ไม่คาดฝันมาก่อน ทำให้ไม่ได้ไปเที่ยวตามที่วางแผนไว้ นั่นก็คือ หวานท้องได้ประมาณ 2 เดือนค่ะ หมอแนะนำว่าไม่ควรบินในช่วงนี้ จะดีที่สุด เราเลยเลื่อนตํ๋วเครื่องบินและโรงแรม มาเดือนกันยายน ซึ่งตอนนั้นก็เกือบ 5 เดือนแล้วค่ะ เลยได้พาพุงน้อยๆมาใส่บิกีนีอาบแดดด้วย :D
เราเดินทางโดยสายการบินสุดโปรด Etihad Airway จากมิวนิก ไปเปลี่ยนเครื่องที่ อาบูดาบี แล้วไปลงที่สนามบินมาเล เมืองหลวงของของหมู่เกาะมัลดีฟส์
จากนั้นก็ไปหาเคาเตอร์ที่ทางรีสอร์ทบอกมาเพื่อไปขึ้นเครื่องบินน้ำ Seaplane ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่านะคะ หรือจะเรียกว่าเครื่องบินทะเลดี 555 แล้วพนักงานที่เคาเตอร์ก็จะพาเราขึ้นรถเมล์เล็กๆไปยังท่าจอดเครื่องบินเองค่ะ แต่ก่อนขึ้นเขาก็จะเช็คน้ำหนักกระเป๋าเราก่อน น้ำหนักกระเป๋าได้แค่ คนล่ะ 20 กก.และกระเป๋าถือ 5 กก. เท่านั้นค่ะ ถ้าเกินนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ แล้วเราก็ไปนั่งรอในส่วนรับรองสำหรับรีสอร์ท รออยู่ประมาณ 1 ชม. เครื่องบินน้ำที่จะไปรีสอร์ทก็มาก็มาค่ะ นานเหมือนกัน
ตื่นเต้นไม่เบากับครั้งแรกที่บินกับเครื่องบินน้ำ รู้สึกได้เลยตอนที่เครื่องบินยกตัวและจอดลงบนผืนน้้ำ แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ รู้สึกปลอดภัย แค่ตื่นเต้น ที่สำคัญต้องเอาใส่ที่อุดหูที่เขาแจกให้ด้วยน่ะค่ะ เพราะเสียงเครื่องดังมากๆๆ
ใช้วลาเดินทางมาถึงเกาะ ประมาณ 20 นาทีค่ะ โชคดีมากๆที่เกาะที่เราเลือก อยู่ห่างจากมาเลแค่ 60 กม. เพราบางรีสอร์ท บางเกาะ อยู่ไกลออกไปมากๆต้องนั่งเครื่องบินนานถึง 1-2 ชม.เลยค่ะ มาถึงก็เริ่มเย็นซะแล้ว แต่ยังมีเวลาแชะภาพได้อยู่ ก่อนจะรีบไปทานข้าวเย็น เพราะร้านอาหารเขาเปิดแค่ 19.30-21 น.ค่ะ
บริเวณลอบบี้ มาถึงก็ประทับใจกับทีมต้อนรับ ไปรอรับตั้งแต่ลงจากเครื่องบินน้ำ และขนกระเป๋าเรามาให้ แล้วมี Mocktail อร่อยๆมาเสริ์ฟ (Mocktail จะไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วน Cocktail ผสมแอลกอฮอล์)จากนั้นก็มีผู้จัดการรีสอร์ท มาทักทายต้อนรับ และก็พนักงานต้อนรับมาแนะนำรีสอร์ทและกิจกรรมในรีสอร์ท พร้อมพาเราไปห้องพักค่ะ
ถึงแล้วห้องพัก Water Bungalow with Jacuzzi สวยตั้งแต่เดินมาไกลๆ วิวทางเดินสวยมากจริงๆ เข้าไปในห้องแล้วชอบมาก ห้องกว้าง สะอาด เป็นสัดส่วน มีจากุซซี่เห็นวิวทะเล ระเบียงกว้างขวาง นอนอาบแดดสบาย ว่ายน้ำดำน้ำ ข้างหน้าห้องได้เลยค่ะ สวยโรแมนติกสุดๆ
ที่นี้จะทำความสะอาดห้องวันละ 2 ครั้งค่ะ ตอนเช้า ตอนที่เราไปทานอาหารเช้า กับตอนเย็น ตอนที่เราไปทานอาหารเย็น กลับเข้าห้องทีไรก็เห็นห้องสวย เตียงเรียบตึงตลอด เราให้ทิปตลอด กลับมาก็เห็นผ้าปูจัดเป็นรูปนู่นรูปนี้ บางวันตกแต่งซะสวย มีดอกไม้โรยเป็นรูปหัวใจ จนไม่กล้านอนเลยค่ะ
มินบาร์ เครื่องดื่ม Soft drink และน้ำเปล่าดื่มได้ไม่อั้น มีเติมให้ทุกวัน ถ้าจอง All inclussive plus ค่ะ มี Welcome drink เชมเปญ 500 ml แต่เราส่งคืน เพราะหวานดื่มไม่ได้คุณสามีเลยไม่อยากดร้งคนเดียว เลยให้พนักงานกลับไปคืนค่ะ
ที่นี่จะมีบังกะโลอยู่ 4 ส่วนค่ะ คือ วอเตอร์บังกะโลฝั่งตะวันตก ฝั่งตะวันออก ฝั่งทิศเหนือ และบีชบังกะโล ก่อนจะจองห้องไปเราก็ไปอ่านรีวิวของแขกคนอื่นๆมา เขาบอกว่า ใครที่ชอบดูพระอาทิศตกดินแนะนำให้จองทางฝั่งทิศตะวันตกน่ะค่ะ วิวสวยมาก แต่ข้อเสียคือ ตอนบ่ายจะร้อนมากๆ นอนที่ระเบียงไม่ได้เลย แต่ฝรั่งเค้าคงชอบนอนอาบแดดกัน คลื่นแรง น้ำจะลึกหน่อย เราเลยจองบังกะโลฝั่งตะวันออกค่ะ ดูพระอาทิตย์ขึ้นแทน แถมตอนบ่ายไม่ร้อนมาก มีร่ม นอนเล่นหรือเล่นน้ำที่หน้าระเบียงได้ ไม่มีคลื่น น้ำไม่ลึก แต่ข้อเสียคือ จะมีสันคอนกรีตกันกระแสน้ำทำให้วิวไม่สวย ถ้าเลือกได้ ให้เลือก 3 ห้องนี้จะไม่มีสันคอนกรีตอยู่บังวิวทะเลสวยๆของเราค่ะ คือห้อง 106, 107 ,108 เราโชคดีได้ห้อง 108 ค่ะ
หวานมีวิดีโอ HD ให้ชมด้วยน่ะค่ะ อย่าลืมกดเข้าไปดูน่ะค่ะ (ใช้กล้องมือถือถ่ายและตัดต่อในมือถือ ภาพอาจไม่นิ่งเท่าไหร่นะคะ แต่คมชัดระดับ HD ก่อนกดชมตั้งค่าวิดีโอเป็น HD ที่มุมขวาของวิดีโอก่อนนะคะ)
Continue >>>Review Part 2 Veligandu Island Resort & Spa Maldives