ภาพถ่ายชุดนี้ เราไม่ได้แพลนไว้ล่วงหน้า แค่ไปเที่ยวหัวหินเมื่อกลางเดือนที่แล้ว แล้วอยู่ดีๆก็อยากถ่ายรูปสวยๆตอนกำลังตั้งครรภ์เก็บไว้ เลยค้นหาช่างภาพในหัวหินจากกูเกิล เลยไปเจอ Huahin in love wedding studio อยู่ต้นๆของหน้ากูเกิล เห็นสไตล์การถ่ายภาพแล้วชื่นชอบมาก หวานเลยไม่รอช้าโทรไปถามว่ามีคิวว่างภายใน 7 วันนี้ไหมค่ะ พอดีพี่น้อยช่างภาพว่างพอดี ก่อนที่เราจะกลับกรุงเทพ โชคดีมากๆค่ะ เลยตกลงราคาและให้พี่น้อยมาถ่ายรูปให้ที่รีสอร์ทที่เราพักค่ะ ระยะเวลาถ่ายภาพ 2 ชม. ได้ภาพมาหลายเซต 100+ ภาพ แต่งหน้า ทำผม หาเสื้อผ้าเอง เพราะหวานแต่งหน้าเองแบบง่ายๆ เสื้อชุดคู่ Mom+Dad ซื้อที่ตลาดนัดแกรนด์ตอนเย็น แต่ทางรีสอร์ทอนุญาติให้ถ่ายได้เฉพาะในวิลล่าและบริเวณรอบๆวิลล่า ซึ่งถ้าต้องการถ่ายวิวข้างนอกต้องจ่ายค่าพื้นที่เพิ่มเติม แต่เราก็พอใจที่จะถ่ายเฉพาะบริเวณห้องและวิลล่าพอค่ะ เพราะสวยเหมือนกันและไม่เปลืองตังเพิ่ม ไม่ผิดหวังเลยจริงๆค่ะ ดีใจมากๆที่ได้ถ่ายภาพตอนตั้งครรภ์เก็บไว้เป็นที่ระลึก ภาพทุกภาพสวยมากค่ะ ทีมงานเก่งมากค่ะ เพียงแค่ไม่ถึง 2 ชม.ได้ภาพสวยๆมากมาย แถมพี่ๆทีมงานยังช่วยคิดท่าถ่ายภาพ ทำให้ได้ภาพสวยๆน่ารัก เป็นธรรมชาติ สวยกว่าที่คิดไว้อีกค่ะ อย่างกะถ่ายพรีเวดดิ้งอีกรอบเลย ต้องขอขอบคุณพี่น้อยและทีมงาน Huahin in love wedding studio ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
ภาพถ่ายชุดพิเศษ อุ้มรัก 7 เดือน
Photos by Huahin in love wedding studio
Review Part 4 Thundi Bar และกิจกรรมที่รีสอร์ท Veligandu Island
Review Part 3 Dhonveli Buffet Restaurant Veligandu Island Resort and Spa
เข้ามารีวิวนี้ ระวัง ความหิว จะตามมานะคะ
รีวิวนี้จะพาไปดูร้านอาหาร Dhonveli Buffet Restaurant สำหรับใครที่จอง Full board หรือ All Inclusive สามารถมาทาน Buffet ที่ Main Restaurant นี่ได้คะ
บรรยากาศบริเวณร้านอาหารภายนอก วิวทะเลสวยมากค่ะ แต่ร้อนไปหน่อย
อาหารเช้าจะมีทั้ง แบบ American Breakfast , ขนมปัง ชีส แฮม ซีเรียล คอนเฟลค ข้าวผัด ข้าวต้มแบบจืดๆ ผัดหมี่ ผัดผักรวม สลัด เมนูไข่ต่างๆ ให้เลือกตักตามใจชอบ
ก่อนจะบินมาเที่ยวที่นี่ หวานบอกได้เลยว่ากลัวทานอาหารที่โรงแรมไม่ถูกปาก กลัวมีแต่จืดๆ ไม่เผ็ด เลยห่อ น้ำพริก ผริกผง น้ำปลา มาม่า มาด้วย แต่ก็ได้ใช้คะ เพราะที่นี่ไม่มีน้ำปลา มีแต่ซอสซูชิชองญี่ปุ่น ไม่มีพริกผง แต่มีพริกขี้หนูเป็นเม็ดๆให้คะ อาหารที่นี่ไม่ได้จืดอย่างที่คิดค่ะ แต่มีติดตัวมาสบายใจ ไว้ใส่ข้าวต้ม หรือทำน้ำพริกผง เพราะชีวิตขาดเผ็ดไม่ได้เลยจริง มาม่านี่ไม่ได้ทานเลย เพราะอาหารที่นี่มีให้เลือกมากมายและอร่อยกว่าที่คิด
ส่วนอาหารเที่ยงและเย็น อลังการมาก โดยเฉพาะเค้ก ชิ้นเล็กน่ารัก ที่แต่ละวันแต่ละมื้อไม่ซ้ำกันเลย น่ากินที่สุด อยากจะชิมทุกๆเมนูแต่ท้องก็รับไม่ไหวจริงๆ
อาหารนานาๆชาติจริง มีทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น อเมริกัน เยอรมัน อิตาลี่ ฝรั่งเศส ตุรกี สเปน กรีก อินเดีย สลับกันไป บางวันมีต้มยำรวมมิตร ส้มตำไทย ผัดไทยด้วยคะ แต่ขอบอกไว้เลยรสชาติไม่เหมือนที่บ้านเราหรอกค่ะ ไม่เผ็ดไม่จัดจ้าน ต้องมาบีบมะนาวเติมพริกเอง ถ้าหวังว่าจะได้มาทานอาหารนานๆชาติอร่อยๆไม่ผิดหวัง แต่ถ้าหวังจะมาทานอาหารไทยรสจัดจ้านผิดหวังแน่นอนคะ เชฟใหญ่ที่นี่เป็นคนเยอรมันคะ เราเลยได้ทานอาหารเยอรมันบ่อย
ใครที่กำลังลดน้ำหนัก ไม่ควรมาที่นี่ เพราะจะอดใจไม่ไหว จริงๆนะคะ มาแค่ 9 วัน น้ำหนักหวานขึ้นไป 2 กก. ส่วนคุณสามีน้ำหนักขึ้นไป 3 กก. กลับมาเขาต้องไปออกำลังกายกันยกใหญ่ เฮ้อ แต่หวานใช้ข้ออ้างทานเพื่อลูก เลยรอดตัว สบายปากไป อิอิ
ถูกใจมากที่สุด ก็คงเป็นผลไม้ไทยๆ ขนุน เงาะ ชมพู่ ลองกอง ฝรั่ง ลำไย เพราะหวานอยู่เยอรมัน หาซื้อผลไม้ไทยยากมาก และถ้ามีก็แพงมากด้วย
แอบมาเร็ว เพื่อมาถ่ายรูปตอนที่ยังไม่ค่อยมีคน ส่วนเครื่องดื่มก็ฟรีคะ Cocktail ,House Wine Alcohol ไม่อั้น สำหรับแขกที่จอง All inclusive มาค่ะ และยังมีเคาเตอร์ทำอาหารสด 2 ฝั่ง ฝั้งยุโรป พวกสปาเกตตี้และ สเต้กปลาย่างสด กับอีกฝั่ง อาหารเอเชีย พวกอาหารผัดต่างๆ แต่สำหรับใครที่อยากทานแบบ Exclusive มากๆ พวก BBQ กุ้ง ปู ปลาตัวใหญ่ๆ ริมหาดเลย สามารถไปทานที่ร้านอาหาร A` La Carte Restaurants แต่ต้องจ่ายเพิ่มตามเมนูที่สั่งค่ะ จะไม่รวมอยู่ใน All inclusive
บรรยากาศยามเย็น มานั่งทานอาหาร ชมวิวทะเลข้างนอก สวยมากค่ะ แต่ต้องรีบมาก่อนแขกคนอื่นๆ ไม่งั้น ที่นั่งข้างนอกจะเต็มหมดก่อนค่ะ ก่อนจบรีวิวนี้ ก็อย่าลืมกดเข้าไปดูวีดีโอ รีวิวร้านอาหารของรีสอร์ทนี้กันนะคะ
ป.ล. ยังขาดรีวิว Thundi Bar และกิจกรรมของที่นี่ ว่างๆแล้วจะแวะมารีวิวเพิ่มเติมนะคะ :) บ้ายบาย อิ่มแล้วไปก่อนหละ
share with friends
Comments
Review Part 2 Veligandu Island Resort & Spa Maldives
Veligandu Island เป็นเกาะที่เล็กมากค่ะ กว้าง 150 เมตร ยาว 600 เมตร เดินเล่นชิวๆ 20 นาทีรอบเกาะค่ะ แต่เป็นเกาะที่สวยมากเกาะหนึ่งในหมู่เกาะ North Ari Atoll ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของมาเล เป็นโรงแรม 4 ดาว มี 91 ห้อง กำลังดีเลยค่ะ เงียบสงบเป็นส่วนตัว แขกไม่เยอะมากค่ะ แต่แทบจะเต็มทุกห้องทุกเดือน ส่วนใหญ่แขกจะมาเป็นคู่ๆ มาเป็นกลุ่มเพื่อนน้อยมาก และแทบไม่เห็นเด็กสักคนค่ะ เหมาะกับการมาฮันนีมูนมากๆค่ะ
ที่เลือกมารีสอร์ทนี้ ก็เพราะว่าไปอ่านรีวิว ใน Agoda ,Tripadvisor ,Expedia และอื่นๆ คะแนนรีวิวยอดเยี่ยม คะแนน 95-98% ทั้งนั้น แถมราคาที่พัก +All inclusive น่าคบ ไม่แพงมากเหมือนรีสอร์ทในเครือใหญ่ๆ อย่าง Anantra ,Centara,The Six Sence
ในภาพจะเห็นว่าไม่ค่อยเห็นคนเลย จริงๆก็มีอยู่บ้างแต่แอบถ่ายตอนคนไม่มีค่ะ และส่วนใหญ่ ตอนกลางวันเขาจะนอนอาบแดดหรือว่ายน้ำ ดำน้ำ ที่หน้าระเบียงห้อง เพราะแค่นั่งอยู่ระเบียงห้องก็สวยจับใจแล้วค่ะ ช่วงเวลาอาหาร เช้า เที่ยง เย็น ถึงจะเห็นแขกเดินมาทานข้าวกันค่ะ
ช่วงที่เราไป เดือนกันยายน อากาศดี มีฝนตก พายุบ้างบางวัน ถ้าฝนตกก็ไม่ตกทั้งวันค่ะ ส่วนใหญ่เป็นตอนกลางคืน และเช้าตรู่ บางวันแดดดี ก็ถ่ายรูปมาได้สวยมาก วันใหนฝนตกไม่มีแดด ก็ยังถ่ายรูปออกมาได้สวย ทะเลสีคราม หาดทรายขาวละเอียด เสียอย่างเดียวเล่นน้ำตอนกลางวันมากๆไม่ได้ จะดำเกรียมในพริบตา แต่อากาศที่นี้เย็นสบาย ถ้าไม่เดินตากแดดตอนเที่ยงนะคะ มีลมโชยตลอด ไม่ร้อนอ้าวเหมือนเมืองไทย
เพราะที่นี้มันสวยจริง เลยได้ภาพคู่กับวิวสวยๆมาเยอะมาก นี่แค่เป็นส่วนหนึ่ง อดไม่ได้จริงๆค่ะ ทุกวันทุกเวลาทุกมุมจริง อย่าว่ากันนะคะ ที่มีรูปหวานเยอะมาก
จะมีเครื่องบินน้ำ พาแขกมาพักวันล่ะ 2-3 รอบ จะบินเฉพาะตอนกลางวัน ตอนกลางคืนเขาห้ามบิน ถ้าใครจะมาเที่ยวหมูเกาะมัลดีฟส์ก็แพลนให้มาถึง มาเลช่วงเช้านะคะ
กิ่งก่าเยอะมากค่ะ ถ้าอยู่อีสานบ้านเราคงโดนจับไปผัดเผ็ดกะปอมกันหมดแล้ว
ทุกๆวันจะได้เห็นนกกระยางขายาว ชอบมาเดินเล่นชายหาด หรือไม่ก็บินมาเกาะที่ระเบียงหน้าห้อง และก็ยังมีฉลามน้อยมาว่ายอยู่บริเวณใกล้ๆชายหาดให้เห็น ถามพนักงานแล้วเขาบอกว่าฉลามพันธ์ุนี้ไม่อันตรายค่ะ
ยามเย็น ของ Water Bungalow ฝั่งตะวันตกค่ะ
หวานมีวิดีโอ HD ให้ชมด้วยน่ะค่ะ อย่าลืมกดเข้าไปดูน่ะค่ะ (ใช้กล้องมือถือถ่ายและตัดต่อในมือถือ ภาพอาจไม่นิ่งเท่าไหร่นะคะ แต่คมชัดระดับ HD ก่อนกดชมตั้งค่าวิดีโอเป็น HD ที่มุมขวาของวิดีโอก่อนนะคะ)
Continue >>> Review Part 3 Dhonveli Buffet Restaurant Veligandu Island Resort and Spa
share with friends
Comments
Review Part 1 Water Bungalow Veligandu Island Resort and Spa Maldives
ทริบนี้เป็นทริปของขวัญจากคุณสามีเนื่องในโอกาศครบรอบ 4 ปีแต่งงานกันค่ะ เขาเลยจะพาไปฮันนีมูนกันอีกรอบ หวานเคยขอไว้ว่าอยากไปมัลดีฟส์สักครั้งหนึ่งในชีวิต เขาเลยเซอร์ไพร์จองตั๋วเครื่องบินแบบไม่บอกไม่ถาม 9 วัน 9 คืนที่มัลดีฟส์ แล้วค่อยมาหารีสอร์ทกันทีหลัง ตอนแรกจองตํ๋วเครื่องบินกับรีสอร์ทไว้กลางเดือนมิถุนายน แต่มีเหตุดีมากๆ ที่ไม่คาดฝันมาก่อน ทำให้ไม่ได้ไปเที่ยวตามที่วางแผนไว้ นั่นก็คือ หวานท้องได้ประมาณ 2 เดือนค่ะ หมอแนะนำว่าไม่ควรบินในช่วงนี้ จะดีที่สุด เราเลยเลื่อนตํ๋วเครื่องบินและโรงแรม มาเดือนกันยายน ซึ่งตอนนั้นก็เกือบ 5 เดือนแล้วค่ะ เลยได้พาพุงน้อยๆมาใส่บิกีนีอาบแดดด้วย :D
เราเดินทางโดยสายการบินสุดโปรด Etihad Airway จากมิวนิก ไปเปลี่ยนเครื่องที่ อาบูดาบี แล้วไปลงที่สนามบินมาเล เมืองหลวงของของหมู่เกาะมัลดีฟส์
จากนั้นก็ไปหาเคาเตอร์ที่ทางรีสอร์ทบอกมาเพื่อไปขึ้นเครื่องบินน้ำ Seaplane ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่านะคะ หรือจะเรียกว่าเครื่องบินทะเลดี 555 แล้วพนักงานที่เคาเตอร์ก็จะพาเราขึ้นรถเมล์เล็กๆไปยังท่าจอดเครื่องบินเองค่ะ แต่ก่อนขึ้นเขาก็จะเช็คน้ำหนักกระเป๋าเราก่อน น้ำหนักกระเป๋าได้แค่ คนล่ะ 20 กก.และกระเป๋าถือ 5 กก. เท่านั้นค่ะ ถ้าเกินนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ แล้วเราก็ไปนั่งรอในส่วนรับรองสำหรับรีสอร์ท รออยู่ประมาณ 1 ชม. เครื่องบินน้ำที่จะไปรีสอร์ทก็มาก็มาค่ะ นานเหมือนกัน
ตื่นเต้นไม่เบากับครั้งแรกที่บินกับเครื่องบินน้ำ รู้สึกได้เลยตอนที่เครื่องบินยกตัวและจอดลงบนผืนน้้ำ แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ รู้สึกปลอดภัย แค่ตื่นเต้น ที่สำคัญต้องเอาใส่ที่อุดหูที่เขาแจกให้ด้วยน่ะค่ะ เพราะเสียงเครื่องดังมากๆๆ
ใช้วลาเดินทางมาถึงเกาะ ประมาณ 20 นาทีค่ะ โชคดีมากๆที่เกาะที่เราเลือก อยู่ห่างจากมาเลแค่ 60 กม. เพราบางรีสอร์ท บางเกาะ อยู่ไกลออกไปมากๆต้องนั่งเครื่องบินนานถึง 1-2 ชม.เลยค่ะ มาถึงก็เริ่มเย็นซะแล้ว แต่ยังมีเวลาแชะภาพได้อยู่ ก่อนจะรีบไปทานข้าวเย็น เพราะร้านอาหารเขาเปิดแค่ 19.30-21 น.ค่ะ
บริเวณลอบบี้ มาถึงก็ประทับใจกับทีมต้อนรับ ไปรอรับตั้งแต่ลงจากเครื่องบินน้ำ และขนกระเป๋าเรามาให้ แล้วมี Mocktail อร่อยๆมาเสริ์ฟ (Mocktail จะไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วน Cocktail ผสมแอลกอฮอล์)จากนั้นก็มีผู้จัดการรีสอร์ท มาทักทายต้อนรับ และก็พนักงานต้อนรับมาแนะนำรีสอร์ทและกิจกรรมในรีสอร์ท พร้อมพาเราไปห้องพักค่ะ
ถึงแล้วห้องพัก Water Bungalow with Jacuzzi สวยตั้งแต่เดินมาไกลๆ วิวทางเดินสวยมากจริงๆ เข้าไปในห้องแล้วชอบมาก ห้องกว้าง สะอาด เป็นสัดส่วน มีจากุซซี่เห็นวิวทะเล ระเบียงกว้างขวาง นอนอาบแดดสบาย ว่ายน้ำดำน้ำ ข้างหน้าห้องได้เลยค่ะ สวยโรแมนติกสุดๆ
ที่นี้จะทำความสะอาดห้องวันละ 2 ครั้งค่ะ ตอนเช้า ตอนที่เราไปทานอาหารเช้า กับตอนเย็น ตอนที่เราไปทานอาหารเย็น กลับเข้าห้องทีไรก็เห็นห้องสวย เตียงเรียบตึงตลอด เราให้ทิปตลอด กลับมาก็เห็นผ้าปูจัดเป็นรูปนู่นรูปนี้ บางวันตกแต่งซะสวย มีดอกไม้โรยเป็นรูปหัวใจ จนไม่กล้านอนเลยค่ะ
มินบาร์ เครื่องดื่ม Soft drink และน้ำเปล่าดื่มได้ไม่อั้น มีเติมให้ทุกวัน ถ้าจอง All inclussive plus ค่ะ มี Welcome drink เชมเปญ 500 ml แต่เราส่งคืน เพราะหวานดื่มไม่ได้คุณสามีเลยไม่อยากดร้งคนเดียว เลยให้พนักงานกลับไปคืนค่ะ
ที่นี่จะมีบังกะโลอยู่ 4 ส่วนค่ะ คือ วอเตอร์บังกะโลฝั่งตะวันตก ฝั่งตะวันออก ฝั่งทิศเหนือ และบีชบังกะโล ก่อนจะจองห้องไปเราก็ไปอ่านรีวิวของแขกคนอื่นๆมา เขาบอกว่า ใครที่ชอบดูพระอาทิศตกดินแนะนำให้จองทางฝั่งทิศตะวันตกน่ะค่ะ วิวสวยมาก แต่ข้อเสียคือ ตอนบ่ายจะร้อนมากๆ นอนที่ระเบียงไม่ได้เลย แต่ฝรั่งเค้าคงชอบนอนอาบแดดกัน คลื่นแรง น้ำจะลึกหน่อย เราเลยจองบังกะโลฝั่งตะวันออกค่ะ ดูพระอาทิตย์ขึ้นแทน แถมตอนบ่ายไม่ร้อนมาก มีร่ม นอนเล่นหรือเล่นน้ำที่หน้าระเบียงได้ ไม่มีคลื่น น้ำไม่ลึก แต่ข้อเสียคือ จะมีสันคอนกรีตกันกระแสน้ำทำให้วิวไม่สวย ถ้าเลือกได้ ให้เลือก 3 ห้องนี้จะไม่มีสันคอนกรีตอยู่บังวิวทะเลสวยๆของเราค่ะ คือห้อง 106, 107 ,108 เราโชคดีได้ห้อง 108 ค่ะ
หวานมีวิดีโอ HD ให้ชมด้วยน่ะค่ะ อย่าลืมกดเข้าไปดูน่ะค่ะ (ใช้กล้องมือถือถ่ายและตัดต่อในมือถือ ภาพอาจไม่นิ่งเท่าไหร่นะคะ แต่คมชัดระดับ HD ก่อนกดชมตั้งค่าวิดีโอเป็น HD ที่มุมขวาของวิดีโอก่อนนะคะ)
Continue >>>Review Part 2 Veligandu Island Resort & Spa Maldives