ทำไมหวานถึงเรียกเมืองเกลือหวาน ง่ายๆเลยค่ะ Salzburg เป็นภาษาเยอรมัน แปลตามตัวตรงๆก็ “ปราสาทเกลือ” ที่นี่เขาไม่ได้ผลิตเกลือจากน้ำทะเล แต่เขาผลิตจากภูเขา หวานได้แวะไปชมภูเขาเกลือมาด้วยค่ะ นั่งรถลางลงไปในอุโมงค์ข้างในภูเขา หนึ่งในเทือกเขาแอลป์ ตื่นเต้นดีค่ะ ส่วนคำว่าหวาน แทนคำว่าโรแมนติก เพราะเมืองนี้ เป็นเมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวาย มีตึกและสถาปัตยกรรมทีสวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆมากมายค่ะ เหมาะเดินเล่นกับคนรัก โดนเฉพาะยามเย็น แสงไฟที่ส่องมาจากบ้านเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร ในซอยเล็กๆ และ ริมแม่น้ำ ได้อารมส์โรแมนติกเชียว และที่สำคัญยังเป็นบ้านเกิดของ Mozart
ทริปนี้สามีตั้งใจจะเซอร์ไพร์ พาไปฮันนีมูน รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ค่ะ เพราะเราไปฮันนีมูนทุกปีค่ะ ทำเหมือนเพิ่งจะแต่งงานกันเลย
เดินทางโดยรถยนต์ จากบ้านถึง Salzburg Austria ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชม.
คุณสามีเลยจองโรงแรมแบบไม่บอกไม่ถามล่วงหน้า พอไปเห็นก็เซอร์ไพร์จริงๆค่ะ ห้องนอนตกแต่งอย่างกะในเทพนิยาย ห้องที่เราพัก มีชื่อว่า Megic Flute จากนิยายเรื่อง Papageno & Zauberflöte ของ Mozart
โรงแรม ชื่อ Wolf-Dietrich ตั้งอยู่ที่ถนน Wolf -Dietrich 7 ติดถนนคนเดินสายเล็กๆ ในใจกลางเมืองเก่า หาร้านอาหารได้ง่าย จะเดินไปเที่ยวใหนก็สะดวกค่ะ
ประมาณ 9 โมง ทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่มีคู่มือหรือแผนที่ แค่เดินตามกลุ่มนักท่องเที่ยวข้างหน้า เขาไปไหนก็ไปตามค่ะ
Salzburg Cathedral
Hohensalzburg Fortress อยู่บนเขา ใครฟิตก็เดินขึ้นได้ค่ะ ใครขี้เกียจก็นั่ง cable car ค่าตั๋วไปกลับ แบะเข้าชมจ้างบน คนล่ะ 11 €
วิวข้างบนสวยมากค่ะ มองเห็นเมือง Salzburg ได้ทั่ว
ข้างในปราสาท
ด้านนอก
แล้วแวะทานข้าวเที่ยงกันที่นี้ เมนูแนะนำ ก็ Schnitzel ชนิทเซล มีทั้งเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อ วัว ให้เลือก ลักษณะจะเป็นเนื้อชุปไข่และแป้งขนมปังทอดค่ะ ที่นี่วิวสวย อาหารก็อร่อย แต่ราคาไม่น่าคบเลยค่ะ แพง !
ลงเขาแล้วอย่าลืมไปลอดอุโมงค์นี้น่ะค่ะ เขาเชื่อกันว่าถ้าใครได้ไปลอดอุโมงค์และ จูจุ้บกับคนรัก ความรักจะยั่งยืนค่ะ
ลงมาแล้วเราก็เดินถ่ายรูป บริเวณ Mozartplatz และ Residentplatz
น้ำพุ Resident fountain
House of Mozart s Birth
ขากลับเรา เราข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งและ เดินถ่ายรูปริมแม่น้ำ Salzach ที่กั้นระหว่างเมืองเก่ากับเมืองใหม่
บ่ายๆก็กลับไปพักที่ห้อง แล้วคุณสามีก็บอกว่าฉันจอง Seg way trip 3 hr ไว้ จ่ายเงินเรียบร้อย ไม่ถามกันก่อนเลยว่าอยากขับไหม เพราะตั้งแต่ขับที่ ปราก แล้วมีคนเดินตัดหน้าเบรกไม่ทัน ล้มไม่เป็นท่า แถมโดนคนที่เดินตัดหน้าด่าให้อีก เข็ดเลย เลยไม่กล้าขับอีกเลย ความจริงมันก็ขับไม่อยากแต่ด้วยความทรงจำเก่าที่ไม่ดีเลยกลัว เลยลองขึ้นไปกับทริปได้ประมาณ 500 เมตร ผ่านถนนคนเดินเล็ก ที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ขาก็เริ่มสั่น เลยบอกไกด์ทัวร์ ว่าฉันขอไม่ไปต่อน่ะ เธอพาฉันกลับห้องที ได้เสียเงินทิ้งฟรีๆ 60 € เลยกลับมาเดินเล่นแถวๆที่พักแทน รอสามีทัวร์เสร็จ
เย็นๆก็ไปหาอะไรทานกัน และเดินเล่นจากโรงแรมไปยัง ริมน้ำ Salzach สวยโรแมนติกมากค่ะ
ดึกแล้วก็ขอกลับไป แช่ตัวในอ่างจิบไวน์ และนอนหลับฝันหวาน ก่อนน่ะค่ะ Bye Bye
พรุ่งนี้จะมารีวิว Salzburg เมืองเกลือหวาน Day 2